วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไกด์ Knight พ่อรูปหล่อใส่โล่อย่างเท่!! ตอนที่ 1

      สวัสดีครับ ไกด์อาชีพที่ 4 แล้วสำหรับไนท์ สายอึด ถึก  ชน นะครับ โดยอาชีพนี้จะมีชุดเกราะที่มีพลังป้องกันมาก และมีโล่ ทำให้พลังป้องกันสูงที่สุดในทุกอาชีพครับ
มาแบ่งสายการเล่นกันก่อนนะครับ โดยไนท์จะมีแนวทางการเล่นหลักๆสองสายดังนี้

1.ไนท์สายโจมตีกลุ่ม(เรียกว่าสายแกรน)
    เป็นไนท์สายลากมอนสเตอร์มารวมๆกันแล้วโจมตีด้วยสกิลกลุ่มนะครับ เนื่องด้วยไนท์มีพลังป้องกันที่สูง บวกกับบัฟป้องกันที่ค่อนข้างดี ทำให้โดนโจมตีน้อยมากครับ ดังนั้นการลากมอนสเตอร์เป็นกลุ่มแล้วมาระเบิดที่เดียวเนี่ย โห สะใจมากเลยครับ มาดูข้อดีข้อเสียกันดีกว่า
ข้อดีไนท์แกรน
-ลากมอนสเตอร์เป็นกลุ่มได้ทำให้เก็บเลเวลได้ง่าย
-รวย เพราะการกำจัดมอนสเตอร์เป็นกลุ่ม ทำให้โอกาสได้ของดีๆมากขึ้น สายนี้จึงเหมาะกับคนหาเงินมากๆเลยครับ
-ต้องอัพ เอจิ (และใส่ออฟแม่น) ทำให้สายนี้อาจไม่ต้องพึ่งพระก็ได้ครับ เพราะต้องเน้นการช่วยเหลือตัวเองก่อน
-เวลาลงพวก ดันพิเศษ จะมีประโยชน์มากครับ เพราะมอนสเตอร์เยอะๆก็ไม่กลัว ลากบึ้ม ลากบึ้ม
ข้อเสียไนท์แกรน
-ทำอะไรใครไม่ได้ครับ เนื่องจากสกิลกลุ่มจะไม่แรงขนาดสกิลเดี่ยว และสกิลกลุ่มเองยังมีอนิเมชั่นที่ค่อนข้างมากครับ ทำให้สู้ใครไม่ได้ เน้นสู้มอนสเตอร์ดีกว่าเนอะ
-ประเด็นนี้สำคัญ ก็เพราะมันต้องลากเนี่ยแหละ ซึ่งถ้าเล่นช่วงแรกๆที่คนเยอะๆในแมพต้นๆ จะเจอปัญหาการแจมมอนสเตอร์ที่เราลากมาด้วยครับ ทำให้ลากมายังไม่ทันสกิล มอนตาย เซ็งกันไป
-ต้องสกิลหลายครั้งอยู่ครับกว่ามอนจะตาย เมื่อย อิอิ
2.ไนท์สายโจมตีเดี่ยว(เรียกว่าสายอิม)
    เป็นไนท์ที่เน้นการโจมตีทีละตัวครับ ด้วยสกิลเดี่ยวที่แรงกว่าสกิลกลุ่มมาก และตัวไนท์เองก็ถึก ทำให้สามารถเก็บเลเวลได้เรื่อยๆ และที่สำคัญสามารถเอามา PVP ได้ด้วยฮะ
ข้อดีไนท์อิม
-ไม่จำเป็นต้องลาก เสียเวลา ตีทีละตัวเนี่ยแหละ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องคนแจมมากนัก
-สามารถ PVP ได้เพราะสกิลแรง ยิ่งอัด ASP สูงๆ จะทั้งแรง ทั้งเร็ว ทั้งถึก
-สามารถชนได้ ทำดาเมจได้ เหมาะสำหรับตี้ที่จะเร่งดาเมจตอนลง Raid และ Instant Dungeon แต่ต้องการตัวชนครับ ไนท์อิมชนได้ทำดาเมจได้พร้อมกัน ต่างกับแกรนที่ทำได้แค่ชน แต่ดาเมจทำได้น้อยครับ
ข้อเสียไนท์อิม
-แน่นอนลากเป็นกลุ่มไม่ได้ ดังนั้นเราดึงมอนสเตอร์ให้เพื่อนใน Instant Dungeon ก็ฆ่าเป็นกลุ่มไม่ได้อยู่ดี ทำให้บางครั้งอาจจะต้องปรับแผนในการลงดันเจี้ยนกันใหม่
-PVP สู้บางอาชีพอาจจะลำบากครับ เช่นสายระยะไกล เนื่องจากเดินช้าครับ ตามเขาไม่ค่อยทัน!!
-ไม่รู้ทำไมคนไม่ค่อยนิยม อาจจะเพราะว่าหาตังได้ไม่เก่งเท่าไนท์แกรนครับ

เอาหละหลังจากรู้แนวของทั้งสองสายแล้ว Status ที่ผมแนะนำให้ทุกคนอัพคือ
     โดยมากแล้วไนท์จากหลายๆคนนิยมอัพ Str 2 Agi 1 ครับ โดยเน้นเรื่องของการคริติคอลและความแม่น โดยจะมีประโยชน์ทั้งไนท์อิม และแกรนเลยครับ และอาจจะอัพ Vit ไว้ซัก 80-120 เพื่อเพิ่มความอึด (อัพช่วงเลเวลเริ่มเยอะแล้วนะครับ ไม่ใช่ช่วงแรก ซัก 100 ค่อยเริ่มอัพ)
โดยสายนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมครับ เพราะคล่องตัว เก่ง และหาของใช้ไม่ยากครับ เพราะใช้ของตามเลเวลไป
        ส่วนออฟชั่นของไอเทมที่แนะนำนะครับ ถ้าเป็นไนท์แกรนผมแนะนำเป็น Accuracy ครับ ความแม่นยำ เพราะบางทีการไปลากกลุ่ม ไม่มีพระแต่เราต้องไปได้ครับ แม่นเยอะๆยิ่งดี
   สูตรคำนวนความแม่นที่ต้องการนะครับ เผื่อคนไม่รู้ ความแม่นที่ต้องใช้ในการตีมอนสเตอร์ให้โดน 95%
คือ 2M + 40 = X นะครับ
โดยที่ M = เลเวลของมอนสเตอร์ครับ
และ X = ค่าความแม่นของตัวละครที่ต้องการเพื่้อให้ตีได้โดน 95% ครับ
ยกตัวอย่างนะครับ
      สมมุติเราจะไปลากมอนสเตอร์ตัวนี้ ที่เลเวล 123 นะครับ ค่าความแม่นที่เราต้องมีคือ
X = 2(123)+40 = 286 นั่้นเอง
ซึ่งความแม่นตรงนี้ใช้ทุกอาชีพนะครับ ยกเว้น เมจ และ คราฟแมน ที่สกิลจะมีความแม่นยำสูง

เอาหละหลังจากแนวทางการเล่นและ Status แล้วเราจะมาต่อกันที่ Skill นะครับ
      เนื่องจากมีสองสายไนท์แกรน กับไนท์อิม จึงขอแยกส่วนกันนะครับ เริ่มที่ไนท์แกรนก่อน

ให้จำตรงนี้ไว้ก่อนนะครับ ว่า เลเวล 1-150 จนคราสสองนั้น จะมีแต้มอัพสกิลทั้งหมด 450 แต้มครับ
โดยหลักการอัพสกิลมีดังนี้ครับ

       สองสกิลแรก Sword Combo และ Chivalry เป็นสกิลทางผ่านทำให้ไนท์คอมโบได้ แต่เราไม่เน้นการคอมโบครับ อัพเป็นทางผ่าน อย่างละ 3 พอครับ
    สกิลกระโดดอันแรกครับ Holy Cross เน้นอัพแค่ทางผ่านพอครับไม่ต้องอัพเต็ม อัพ LV.3 พอ เดี๋ยวมีสกิลที่ดีกว่าตอนเลเวล 23 ครับ
   สกิลกระโดดตอนเลเวล 23 Grand Cross ครับ อัพเต็มเลยครับ แรง และเป็นทางผ่านไปสกิลต่อไป
สกิลกระโดดอันต่อไป Holy Punishment ได้ตอน เลเวล 50 ครับ อัพเต็มได้ตอนเลเวล 95 อัพเต็มไปยาวๆเลยครับ
    สกิลสุดท้ายของสายโดดครับ Deadly Cross ครับจะอัพสกิลได้เต็มตอน LV140 ครับ อัพยาวๆไปเลย สกิลแรงฝุดๆ
สกิลบัฟนะครับ
        สกิลบัฟนะครับ อันแรก Defense Guard สกิลที่จะช่วยเพิ่มค่าหลบ และช่วยบล็อกดาเมจได้ แต่เป็นแค่โอกาศติด บางคนก็อัพเต็ม บางคนก็ไม่อัพเลยครับ สำหรับผม ผมไม่อัพครับ
      สกิลบัฟอันที่สองนะครับ Infinity Guard อันนี้เป็นบัฟแบบเน้นๆครับ คือเพิ่มค่า Def เข้าตรงๆเลย โดยจะเพิ่มสูงสุดที่อัพเต็มถึง 110 Def เลยทีเดียวครับ ทำให้อึดมากๆ แนะนำอัพเต็มครับ
     ต่อไปบัฟวิ่งครับ จริงๆสำหรับไนท์สายลากความเร็วในการเดินก็จำเป็นครับ จะอัพให้เต็มก็ได้ หรืออัพแค่ 1 ก็ได้ (อัพ 1 ได้ความเร็วเดิน 13 ถือว่าพอสมควรแล้วครับ) ส่วนตัวผมอัพ 1
การจะอัพ
โดยการจะอัพบัฟทั้งหลายเหล่านี้ได้จะต้องอัพสกิลนี้ฮะ
สกิล Provoke เป็นสกิลที่ใช้เรียกมอนสเตอร์ให้มาโจมตีเราครับ โดยให้อัพไว้เป็นทางผ่านคือ Lv.3
แต่ถ้าใครไม่ได้อัพสกิล Defense Guard จะมีพ้อยเหลือแนะนำให้อัพ เต็มเพื่อเป็นทางผ่านของสกิลนี้ครับ
   Multi Provoke สกิลดึงมอนสเตอร์รอบๆตัวให้มาโจมตีเราครับ แนะนำว่าอยากให้อัพเพราะแพทนี้มีระบบ Instant Dungeon ดังนั้นถ้ามีเพื่อนที่มีสกิลกลุ่ม สกิลนี้จะช่วยเพิ่มค่า Aggro (ค่าที่ทำให้มอนสเตอร์ไม่หันไปตีคนอื่น) แบบเป็นกลุ่มได้ดีครับ ทำให้ดึงมอนสเตอร์อยูุ่
แต่ถ้าใครไม่เน้นลง Instant Dungeon แล้วหละก็ ไม่จำเป็นต้องอัพครับ
โดยถ้าอัพแบบนี้สกิลพ้อยจะครบ 450 พอดีนะครับ

เอาหละต่อไปจะเป็นการอัพสายอิมนะครับ
   


สองสกิลนี้เหมือนเดิมครับ อัพแค่ทางผ่านอย่างละ 3 ครับ
          Impact Crash สกิลแรกของสายอิม จริงๆทางผ่านแค่ 3 นะครับ แต่ผมจะอัพเต็มเลยเพราะสายอิมสกิลพ๊อยค่อนข้างพอนะครับ ได้ตอนเลเวล 16 ครับ
         Impact Explosion  ได้ตอนเลเวล 27 ครับ อัพเต็มยาวๆเลย เต็ม 5 ครับ แรงขึ้นพอสมควรครับ
       Dot Impact ครับ สกิลแรงตอนเลเวล 70 อัพเต็มยาวๆ
   สกิล Grand Sword สกิลแรงสุดของสายอิมก่อนคราสสองครับ อัพได้ตอนเลเวล 100 และอัพเต็มตอน 140 ครับ

ต่อไปเรื่องบัฟนะครับ

บัฟซ้าย Defense Guard ถ้ามีสกิลพ้อยเหลือก็อัพเลยครับ แต่ไม่จำเป็นเท่าไหร่
บัฟขวา Infinity Guard สกิลบวกอึดดีๆแบบนี้จะรออะไร อัพให้เต็มครับ สูงสุด Def 110
        อันนี้ผมขอเน้นเลย เนื่องจากไนท์อิมเป็นสายที่ต้องเดินตีมอนสเตอร์ตลอดเวลา และมอนสเตอร์เดี่ยว ตายค่อนข้างไว ดังนั้นความเร็วในการเคลื่อนที่ที่มากขึ้น จะทำให้เราใช้เวลาเดินน้อยลง ทำให้ฆ่ามอนสเตอร์ได้ไวขึ้นครับ ดังนั้นอัพเต็มเลยครับ

สกิล Provoke อัพแค่ทางผ่านครับ 3 พอ เพราะเราเน้นการตีมอนทีละตัวไม่ได้ลากรวม (ยกเว้นคนจะเน้นลง Raid ให้อัพเต็มครับ เพื่อให้ดึงมอนสเตอร์ง่าย)

ก็จบแล้วครับสำหรับไกด์ในตอนแรก เรื่องของรูปแบบการเล่นของทั้งสองแบบและการอัพสกิล ส่วนแนวทางการเก็บเลเวล และไอเทมที่น่าสนใจ ขอมาต่อที่ตอนหน้าเด้ออ บ๊าย บายยย♥

2 ความคิดเห็น: